Page 19 - สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอื่นกระผมขอแนะนำตัวก่อนครับ กระผม พันเอก กัญจน์ณัฎฐ์ นิลนนท์ รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการสวัสดิการสารแทน พันเอก สมเกียรติ ถนอมคุ้ม ผู้อำนวยการกองกิจการรร้านสวัสดิการกลาง กรมสวัสดิการทหารบก เนื่องจากท่านมีภารกิจที่มากขึ้น ผู้บังคับบัญชา จึงมอบหมายให้กระผมมารับหน้าที่ต่อจากท่าน แต่ไม่ต้องกังวลครับเพราะว่าหนังสือสวัสดิการสารของเรายังคงมีเนื้อหาสาระน่ารู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อท่านสมาชิกเช่นเดิม และถ้าสมาชิกท่านใดอยากแนะนำติชม หรือต้องการให้นำเสนอเรื่องใด สามารถแนะนำมาได้ครับ สุดท้ายนี้กองบรรณาธิการสวัสดิการสารขอขอบคุณทุกหน่วยที่ให้การสนับสนุนข้อมูล และภาพถ่ายทำให้หนังสือสวัสดิการสารมีความสมบูรณ์ครบถ้วนทั้งเนื้อหาสาระ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ พร้อมทั้งความบันเทิงจากหนังสือสวัสดิการสารฉบับนี้ครับ
P. 19
กองการฌาปนกิจ
https://chapanakit.rta.mi.th
พระปรางค์องค์เดิมนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีความสูง
เพียง 8 วา หรือประมาณ 16 เมตร เท่านั้น แต่พระปรางค์ที่
เห็นกันในปัจจุบันนี้ได้มีการต่อเติมขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 3
เมื่อคราวที่ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ใหม่หมดทั้งวัด พระปรางค ์
องค์ที่บูรณะใหม่นี้มีขนาดความสูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตร
์
ที่น่าทึ่งก็คือ การที่จะสร้างพระปรางคองค์สูงใหญ่อยู่ใกล้ริมฝั่ง
แม่น ้า และยังคงแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แสดงว่าฝีมือของ
วัดอรุณราชวราราม ถือเป็นวัดประจ ารัชกาลที่ 2 ช่างในสมัยนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า องค์พระปรางค์ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
“วัดมะกอก” แล้วเปลี่ยนมาเป็น “วัดแจ้ง” ในสมัยสมเด็จ ฐาน เรือนธาตุ และเรือนยอด มีสัณฐานดุจเขาพระสุเมรุ
พระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จ ด้วยความกว้างราว 234 เมตร ส่วนตัวเรือนฐานท าการย่อมุมลง
พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ มีการจัด และเรือนยอดที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป ในแต่ละชั้นมีช่องรูป
งานสมโภชใหญ่ถึง 7 วัน 7 คืน และพระราชทานชื่อใหม่ว่า กินนรและกินรี เชิงบาตรเหนือช่องมีรูปมารแบกกระบี่
“วัดอรุณราชธาราม” ถึงรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า แบกสลับกัน เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มคูหารูปพระพายทรงม้า
เจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีก เหนือขึ้นไปเป็นยอดปรางค์มีรูปครุฑยุดนาคและเทพนม
แล้วเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดอรุณราชวราราม” มีชื่อเต็มว่า อยู่เหนือซุ้มคูหา ส่วนยอดปรางค์เป็นพระมหามงกุฎนภศูล
“วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” กลุ่มพระปรางคประกอบด้วยของปรางค์ประธานซึ่งมี
์
ความส าคัญของวัด เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ความสูง 67 เมตร และปรางค์ทิศจ านวน 4 ปรางค์ เป็นปรางค ์
ชนิดราชวรมหาวิหาร อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังเดิม และ องค์เล็กก่ออิฐถือปูนประดับกระจกเคลือบสีแบบเดียวกับ
พระปรางค์องค์ใหญ่ ปรางค์ทิศตั้งอยู่มุมทักษิณชั้นล่างของ
เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
(พระแก้วมรกต) ครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระมหากษัตริย์ ปรางค์องค์ใหญ่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต ้
ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ได้เสด็จพระราชด าเนินมา ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ทิศละองค ์
พระราชทานผ้าพระกฐินทางชลมารค ถือเป็นพระราชกรณียกิจ โบสถ์น้อย เป็นอุโบสถหลังเก่าของวัดอรุณฯ ภายใน
ส าคัญที่ต้องปฏิบัติเป็นประจ า ประดิษฐาน “พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน”
ส าหรับใครที่จะมาเที่ยววัดอรุณฯ แล้วไม่รู้ว่าจะชม ให้ผู้ที่มาเยือนได้สักการะ และทางด้านซ้ายของบรมรูปหล่อ
ตรงจุดไหนบ้าง มาท าความรู้จักกันค่ะ เป็นที่ตั้งของศาลสถิตดวง พระวิญญาณของพระองค์ ตรงข้าม
ส าหรับจุดแรกที่เป็นท ี่ ของพระบรมรูปหล่อฯ เป็น “พระแท่นบรรทม” ที่เชื่อว่า
รู้จักของคนส่วนใหญ่เมื่อนึก สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงมา
ถึงวัดอรุณคือ “พระปรางค์ ประทับในปลายรัชกาล ส่วน
วัดอรุณฯ” ที่โดดเด่นอยู่ริม ด้านหลังของ พระบรมรูปฯ
แม่น ้าเจ้าพระยา ซึ่งองค์ที่ ประดิษฐาน “หลวงพ่อ
ั้
เห็นปัจจุบันนี้ไม่ใช่พระปรางค์องค์เดิมที่มีมาตงแต่แรก รุ่งมงคล”
สวัสดิการสาร ธันวาคม 2567 19